วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

 การตกปลาบ่อหรือฟิชชิ่งปาร์ค

 เทคนิคการตกปลาบ่อหรือฟิชชิ่งปาร์คต่างๆ เน้นที่ปลาหนังครับ เช่น ปลาสวาย บึก เป็นต้น ไม่ได้กล่าวถึงเทคนิคการตกปลาแบบสปิ๋วนะครับ เนื่องจากมีเพื่อนๆ เขียนไว้อย่างยอดเยี่ยมแล้วหละครับ และเป็นเทคนิคที่เพื่อนสมาชิกทั่วไปใช้ในการตกแข่งขัน และตกเล่น เจตนาแค่อยากนำเสนอให้สมาชิกใหม่ๆ ทราบ มือเก่า มือเก๋า คงทราบดีครับ





     1.เหยื่ออ่อย หมายถึง เหยื่อที่ท่านผสมลงในถังเรียบร้อยแล้ว (สูตรใครสูตรมันครับ)
     2.สายหน้า หรือ ชิ่งหน้า หมายถึง สายเอ็นที่มีขนาดใหญ่กว่าสายเอ็นในรอกเล็กน้อย และมีความยาวตั้งแต่ 10-100 ซม.ครับ หรือหากปลามีขนาดใหญ่มากจะใช้สายไดนีม่า(สายเชือกถัก)ก้อได้ครับ แต่ในที่นี้แนะนำให้ใช้สายเอ็นจะดีกว่าครับ
     3.ตะกร้อวิ่ง หมายถึง ตะกร้อที่วิ่งฟรีอิสระในสายได้ครับ
     4.ตัวเหน็บ หมายถึง ชิ้นขนมปังที่ใช้เกี่ยวกับตะขอเบ็ดครับ
     5.สต๊อปเปอร์ หมายถึง ตัวหยุดทุ่น เป็นพลาสติกดำๆเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าสายเอ็นเล็กน้อย ทำหน้าที่หยุดทุ่นไม่ให้ไหลขั้นครับ ใช้กำหนดความลึกในการส่งเหยื่ออ่อยล่อปลาครับ
     6.ไร้สาร หมายถึง เทคนิคสายหน้าที่ไม่ใช่ตะกั่วนั่นเอง บางท่านจึงเรียกว่า"ไร้สารตะกั่ว"
     7.ตีจม หมายถึง เหยื่ออ่อยจมอยู่ใต้น้ำครับ
     8.ตีลอย หมายถึง เหยื่ออ่อยจมอยู่กลางน้ำ หรือ ผิวน้ำครับ

"เทคนิคสายหน้าแบบตีจม"

     1.ไร้สาร ประกอบด้วย สายจากรอก/ลูกหมุน/สายหน้ายาว 80 -100 ซม./ตัวเบ็ด
          - นำตัวเบ็ดเกี่ยวชิ้นขนมปัง(ตัวเหน็บ) จากนั้นนำเหยื่ออ่อยมาโรยใส่ฝ่ามือ แล้วนำตัวเหน็บมาวางทับ จากนั้นโรยเหยื่ออ่อยทับอีกครั้ง แล้วกำให้แน่นพอประมาณครั้งเดียว (ปั้นเหยื่ออ่อยหุ้มตัวเหน็บนั่นเอง)

     2.ฝังเข็ม ประกอบด้วย สายจากรอก/ลูกปัด/ตะกั่ว/ลูกปัด/ลูกหมุนยาว 80 - 100 ซม./สายหน้า/ตัวเบ็ด
         - ปั้นเหยื่ออ่อยหุ้มตะกั่ว จากนั้นนำตัวเหน็บมาวางแปะข้างๆเหยื่ออ่อย แล้วโรยเหยื่ออ่อยทับอีกชั้นหนึ่ง

     3.ลูกโดด หรือ ตีจุ๊บ ชุดประกอบแบบนี้เหมือนกับฝังเข็ม
         - ปั้นเหยื่อแบบไร้สารครับ

     4.ตะกร้อหน้าดิน ประกอบด้วย สายจากรอก/ลูกปัด/ตะกร้อวิ่ง/ลูกปัด/ลูกหมุน/สายหน้ายาว 12-30 ซม/ตัวเบ็ด
         -ปั้นเหยื่อแบบฝังเข็มครับ สายหน้าก้อคล้ายแบบฝังเข็มครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากตะกั่วมาเป็นตะกร้อครับ และสายหน้าสั้นกว่าครับ

     เป็นงัยมั้งครับ"เทคนิคสายหน้าแบบตีจม" งงมั้ยครับ ค่อยๆ อ่านแล้วปฏิบัติตามครับ ส่วนขนาดตัวเบ็ดควรเลือกให้เหมาะสมากับขนาดปลานะครับ  และหากปลาไม่ใหญ่มาก สายหน้าไม่ควรใช้สายเชือกถักครับ  ใช้สายเอ็นที่มีขนาดใหญ่กว่าสายในรอกเล็กน้อยก้อพอครับ ปลาจะไม่ระแวงและพริ้วเมื่ออยู่ในน้ำ เช่นสายในรอก 12 ปอน์ด สายหน้าก้อควรจะแค่ 15 ปอน์ดพอครับ

"เทคนิคสายหน้าแบบตีลอย"

     1.ทุ่นลอย ประกอบด้วย สายจากรอก/ตัวสต๊อปเปอร์/ลูกปัดเล็ก/ทุ่นลอย/ลูกปัด/ตะกร้อวิ่ง/ลูกปัด/ลูกหมุน/สายหน้ายาว 1 ศอก/ตัวเบ็ด
          วิธีปั้นเหยื่อเหมือนกับตะกร้อหน้าดินครับ ส่วนไลน์สต๊อปเปอร์ก้อเลื่อนขึ้นลงครับ แล้วแต่ระดับความลึกของน้ำแต่ละบ่อ และแนวความลึกที่ปลากินเหยื่อครับ โดยปกติแล้วให้เริ่มจากหนึ่งคืบเป็นต้นไปครับ

     2.กระสือ ประกอบสายแบบทุ่นลอยครับ เพียงแต่ว่าตัวทุ่นติดกับตะกร้อเลยครับ ให้ท่านเลื่อนไลน์สต๊อปเปอร์ลงมาล่างสุดครับตัวทุ่นก้อจะติดกับตะกร้อเอง หรือท่านจะใช้แบบทุ่นกระสือที่มีขายสำเร็จรูปก้อได้ครับ แต่ผมไม่แนะนำ เนื่องจากไม่สะดวกในการปรับเปลี่ยนไลน์หากปลากินเหยื่อลึกลงไปในน้ำครับ
          วิธีปั้นเหยื่อเหมือนกับตะกร้อหน้าดินครับ

     3.จานบิน ประกอบสายแบบทุ่นลอยครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากตะกร้อมาเป็นตะกั่วแทนครับ ควรเลือกตะกั่วให้ขนาดเหมาะสมกับทุ่นครับ ไม่งั้นทุ่นท่านจะจมครับ
         วิธีปั้นก้อเช่นเดียวกันครับเหมือนกับตะกร้อหน้าดิน โดยสรุปแล้วการตีเหยื่อลอยวิธีปั้นเหยื่อเหมือนกับตะกร้อหน้าดินทุกประการครับ


     ท้ายนี้...ท่านจะเลือกวิธีใดในการตกปลาบ่อ อันนี้ขึ้นอยู่กับ ความลึกของน้ำ นิสัยการกินเหยื่อของปลาบ่อนั้นๆ สภาพน้ำ ชนิดเหยื่อ เป็นต้นครับ คงต้องปรับเปลี่ยนดู บางครั้งปลากินวิธีใดวิธีหนึ่งในระยะเวลาหนึ่ง อาจมีการหยุดกิน อันนี้ท่านต้องเปลี่ยนแปลงไล่หาเทคนิคอาวเองครับ ว่า ณ ขณะนั้น ปลาที่ท่านตกอยู่กินเทคนิคไหนครับ ผมเชื่อว่าหากเหยื่อดี แต่เทคนิคไม่ดี ปลาก้อจะกินไม่ถี่ครับ หากทั้งสองอย่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน ปลาจะกินจัดขึ้นครับ

:



ที่มาhttp://www.siamfishing.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น